NAD+ Therapy ควรทำบ่อยแค่ไหน

แนะนำให้เข้ารับการทำ NAD+ Therapy อย่างน้อยเดือนละ1 ครั้งหรือตามคำแนะนำของแพทย์ โดยครั้ง 2-3 เป็นต้นไปสามารถเพิ่มเติมตัวยา วิตามินอื่นๆ เข้าไปร่วมด้วยได้ขึ้นอยู่อายุและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้ ซึ่งแนวทางในการทำ NAD+ Therapy ที่แพทย์หลายๆ คนแนะนำว่าจะช่วยให้เห็นผลไวจะมีดังนี้ ผลข้างเคียงหลังทำ NAD+ Therapyในระหว่างการให้ยาอาจเกิดอาการมึนศีรษะ แน่นหน้าอก หรือมวนท้องซึ่งกรณีนี้มักเกิดจากคนไข้มีอาการวิตกกังวลก่อนทำ ซึ่งคนไข้สามารถแจ้งแพทย์ผู้ดูแลเพื่อปรับการดริปยาให้ช้าขึ้นได้ และอาการดังกล่าวจะหายไปเองเมื่อให้ยาเสร็จ และในบางรายอาจเกิดรอยเข็มขึ้นได้หลังจากทำ ซึ่งสามารถใช้การประคบเย็นเช้าช่วยเพื่อให้รอยจางไวขึ้น

เกิดอะไรขึ้นเมื่อ NAD+ ในร่างกายลดลง

มีการศึกษาที่ค้นพบว่า การลดลงของระดับ NAD+ ทำให้เกิดความชรา โดยทั่งไประดับ NAD+ จะลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น  ในวัยกลางคนจะลดลงเหลือน้อยกว่า 50 % และลดลงเหลือเพียง 1 – 10 % เมื่อมีอายุ 80 ปี การลดลงของระดับ NAD+ ก่อให้เกิดการเสื่อมถอยของระบบประสาทและความจำ ระดับการเปลี่ยนแปลงพลังงานลดลง เกิดภาวะของโรคหัวใจ โรคอ้วน ภาวะมีบุตรยาก และปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามอายุขัย ความเสื่อมของร่างกายเมื่อระดับ NAD+ ลดลง การเสริมสุขภาพร่างกายด้วย NAD+ เหมาะกับใคร ? และบังมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการเสริมระดับ NAD+ ช่วยชะลอหรือย้อนวัยให้กับสุขภาพของร่ายกาย ในแง่มุมต่างๆ และยังชะลอการลุกลามของโรคที่มักมีแนวโน้มพบได้บ่อยตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โปรแกรม NAD+ ด้วยสูตรเฉพาะบุคคล ช่วยเเก้ไขข้อบกพร่องของระบบการเผาผลาญของ กระบวนการแก่ของเซลล์ รวมถึงโรคทางระบบประสาท, โรคหลอดเลือดหัวใจ, เบาหวาน, โรคอ้วน และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอายุ โดยเเพทย์ จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินวิเคราะห์ […]

NAD+ คืออะไร

NAD+ หรือ Nicotinamide adenine dinucleotide เป็นอนุพันธ์ของวิตามินบี3 และเป็นสารประกอบธรรมชาติที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอายุขัยของเซลล์ในร่างกาย NAD+เป็นโคเอนไซม์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในทุกเซลล์ของร่างกาย มีความสำคัญในขบวนการฟื้นฟูเซลล์ในระดับดีเอ็นเอ สามารถพบได้ในเซลล์ที่ช่วยส่งเสริมการงอกใหม่ของเซลล์และเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างพลังงานของเซลล์ จึงช่วยชะลอความเสื่อม และโรคที่เกิดมาจากความเสื่อมของร่างกาย มี 3 องค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อการซ่อมแซมเซลล์ และการงอกใหม่ของเซลล์ นั่นคือ NAD+จะลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยมีการประเมินว่า ระดับของNAD+ เมื่ออายุ 50 ปี จะเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของNAD+ เมื่ออายุ 20 ปี และเหลือเพียง 20% เมื่ออายุ 70 ปี เมื่อคุณมีอายุ 80 ปี การลดลงของระดับ NAD+ ส่งผลให้เกิดการปิดการทำงานของโปรตีน Sirtuins และยับยั้งการทำงานของเอนไซน์ PARP ซึ่งทั้งสองอย่างส่งผลเสียต่อการทำงานของสมอง และสุขภาพของระบบประสาทของเรา ก่อให้เกิดการ เสื่อมถอยของระบบประสาท และความจำ เกิดภาวะของโรคหัวใจ โรคอ้วน และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามอายุขัย ดังนั้นหากอยากชะลอวัย NAD+ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากครับ […]

จริงหรือไม่? เลเซอร์หน้าบ่อยทำให้ผิวบางอ่อนแอ

เลเซอร์หน้าบ่อยๆ จะทำให้ผิวหน้าบอบบางและอ่อนแอไหม? คำถามยอดฮิตของผู้ที่ต้องการรักษาผิวหน้า แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทำดีหรือไม่ จริงๆ แล้ว การเลเซอร์ไม่ได้ทำให้ผิวหน้าบางอย่างที่ทุกคนเข้าใจ ในทางตรงกันข้ามการเลเซอร์หลายชนิด (ที่ทำอย่างถูกต้องโดยแพทย์ชำนาญการ) โดยเฉพาะเลเซอร์ที่ใช้ปรับสภาพผิวกลับจะกระตุ้นให้มีการสร้างผิวใหม่ที่ดีว่า การเลเซอร์ไม่ได้ทำให้หน้าบางลงในทางตรงกันข้าม การเลเซอร์หลายชนิดโดยเฉพาะเลเซอร์ที่ใช้ปรับสภาพผิวจะกระตุ้นให้มีการสร้างผิวใหม่ที่เรียบและหนากว่าผิวเก่า หรือ การใช้เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวหน้า ซึ่งสิ่งที่ทำให้เข้าใจว่าเลเซอร์เป็นสาเหตุทำให้ผิวบางนั้นน่าจะหมายถึงเลเซอร์ในกลุ่มที่ทำให้เกิดรอยถลอกที่ผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดการถลอกออกของผิวหนังกำพร้า หรือผิวหนังชั้นนอกเท่านั้นและเป็นการถลอกออกเพียงชั่วคราวจากนั้นตามธรรมชาติร่างกายจะมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเป็นปกติ จึงไม่ทำให้เกิดผิวบางในระยะยาว ยิ่งถ้าเป็นเลเซอร์ที่ไม่ทำให้เกิดรอยถลอกกับผิว เช่น IPL, PDL เป็นต้น ก็ยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดผิวบาง แม้ว่าการเลเซอร์หน้าจะไม่ทำให้ผิวบาง แต่ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกชนิดเลเซอร์ให้เหมาะกับผิวหน้า ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลและสถานเสริมความงามที่ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสถานพยาบาลที่ดีจะไม่มุ่งเน้นการขายคอร์สเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอน Consult ไปจนถึงขั้นตอนการรักษา เพื่อให้ได้ผลที่ดีและปลอดภัยที่สุดหลังการรักษาอีกด้วย

Diode Laser

วิธี Diode เป็นเลเซอร์ที่มีหลากหลายความยาวคลื่น ในแต่ละความยาวก็จะใช้ในจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เลเซอร์ Diode ทำงานด้วยการพุ่งเข้าไปจับเมลานินที่อยู่ในเส้นขน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เส้นขนจะที่ถูกทำลายและหลุดร่วงออกมาโดยไม่ทำร้ายผิวหนังโดยรอบ ไม่ว่าสาวๆ ผิวแบบไหนก็สามารถทำ Diode ได้ เนื่องจากเลเซอร์ชนิดนี้ค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว และยังมีความยาวคลื่นที่ซึมผ่านผิวหนังได้ลึก และไม่ทำปฎิกิริยากับเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ในขั้นตอนแรกของการทำ Diode จะต้องทำการเล็มหรือโกนขนออกก่อน จากนั้นจะทาเจลเย็นเพื่อช่วยลดการอักเสบระคายเคือง ก่อนจะเริ่มทำเลเซอร์ทีละส่วนจนครบทุกบริเวณที่ต้องการ สาวๆ จะรู้สึกเย็นตลอดเวลา เนื่องจากที่หัวเลเซอร์จะมีระบบทำความเย็นไปพร้อมๆ กับการยิง สาวๆ จะไม่รู้สึกแสบหรือร้อน หรืออาจมีบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าทนไม่ไหวก็สามารถแจ้งผู้เชี่ยวชาญได้เลย ข้อดี ของการทำ Diode คือ แสงสามารถผ่านผิวลงไปได้ลึก ทำให้กำจัดขนได้ทั้งเส้นใหญ่และเส้นเล็ก และชะลอการเกิดเส้นขนใหม่ได้ดี แถมยังปลอดภัยกับทุกสภาพผิว ไม่เจ็บขณะทำ และหลังการทำ ผิวจะมีความเรียบเนียนมากขึ้น ช่วยกระชับรูขุมขนได้ดี ข้อเสีย ของการทำ Diode คือเส้นขนจะค่อยๆ หลุดร่วงไปในช่วง 1-2 สัปดาห์ภายหลังการทำเลเซอร์ หลังจากนั้นจะมีขนขึ้นมาบ้าง การทำ Diode ควรทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง 5-6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งสาวๆ […]

เลเซอร์หน้าใสบ่อยๆ ทำให้หน้าบางจริงหรือไม่

หน้ากระจ่างใสไม่หมองคล้ำ เป็นอีกหนึ่งความสำคัญด้านภาพลักษณ์สำหรับใครหลายคน ซึ่งการดูแลผิวหน้าด้วยการบำรุงด้วยสกินแคร์นั้นอาจจะไม่เพียงพอ และอาจจะบำรุงไม่ล้ำลึกมากพอ “เลเซอร์หน้าใส” ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถดูแลผิวได้อย่างล้ำลึกกว่าแค่บำรุงผิวหน้าธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เลเซอร์หน้าใสนั้น ไม่ใช่ทำเพียงแค่ครั้งสองครั้งแล้วจบไป เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป อาจจะต้องทำเลเซอร์หน้าใสมากกว่า 2 ครั้งอย่างต่อเนื่องจนสภาพผิวดีขึ้น  ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายคนอาจจะสงสัยว่าหากเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยดูแลผิวหน้า หรือการทำเลเซอร์หน้าใส เพราะเป็นการดูแลอย่างล้ำลึก ถ้าทำบ่อยๆ เข้า จะทำให้ผิวหน้าบางลงไหม เพราะจริงๆ แล้วการเลเซอร์หน้าใสไม่ได้ทำให้ผิวหน้าบางอย่างที่ทุกคนเข้าใจ ในทางตรงกันข้ามการเลเซอร์หน้าใสมีหลายชนิด ที่ทำอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะเลเซอร์ที่ใช้ปรับสภาพผิวกลับจะกระตุ้นให้มีการสร้างผิวใหม่ที่ดีกว่าได้ครับ การเลเซอร์หน้าไม่ได้ทำให้หน้าบางลง แต่ในทางตรงกันข้ามการเลเซอร์หน้าใส โดยเฉพาะเลเซอร์ที่ใช้ปรับสภาพผิวจะกระตุ้นให้มีการสร้างผิวใหม่ที่เรียบและหนากว่าผิวเก่า ซึ่งสิ่งที่ทำให้เข้าใจว่าเลเซอร์เป็นสาเหตุทำให้ผิวบางนั้นน่าจะหมายถึงเลเซอร์ในกลุ่มที่ทำให้เกิดรอยถลอกที่ผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดการถลอกออกของผิวหนังกำพร้า หรือผิวหนังชั้นนอกเท่านั้นและเป็นการถลอกออกเพียงชั่วคราวจากนั้นตามธรรมชาติร่างกายจะมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเป็นปกติ จึงไม่ทำให้เกิดผิวบางในระยะยาว  แม้ว่าการเลเซอร์หน้าใสจะไม่ทำให้ผิวบาง แต่ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกชนิดเลเซอร์ให้เหมาะกับผิวหน้า ดังนั้นการเลือกคลินิกเกี่ยวกับความงามที่ต้องดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะคลินิกที่ดีจะไม่มุ่งเน้นการขายคอร์สเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญของผู้ที่เข้าใช้บริการ ตั้งแต่ขั้นตอน Consult ไปจนถึงขั้นตอนการรักษา เพื่อให้ได้ผลที่ดีและปลอดภัยที่สุดหลังการรักษาอีกด้วยครับ

Rejuran คืออะไร

REJURAN นวัตกรรมฟื้นฟูผิวด้วยสารสกัดเข้มข้น Polynucleotide (PN) ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง มีความยืดหยุ่น กระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอย ช่วยผิวดูอ่อนเยาว์ เพิ่มความฉ่ำวาวให้ผิวดูโกลด์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ Polynucleotide (โพลี่นิวคลีโอไทด์) คืออะไร?สารสกัดจากชิ้นส่วน DNA จากปลาแซลมอนที่เป็นสารชีวโมเลกุลปลอดภัยต่อมนุษย์ไม่กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันซึ่งอยู่ในรูปแบบของสารละลายชนิดเจลใสสามารถสลายตัวได้นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นคืนสมดุลให้กับผิวหนังแท้และผิวหนังกำพร้า ข้อดีของโปรแกรม REJURAN (รีจูรัน) หลังทำจะเห็นผลทันที และผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนประมาณอ 1-2 สัปดาห์ แนะนำฉีดติดต่อกันเดือนละครั้ง 3 เดือน และหลังจากนั้น สามารถดูแลต่อเนื่องได้ทุก ๆ 6-12 เดือนเพื่อคงสภาพผิวให้สุขภาพดีสามารถฉีดแทนโปรแกรมโบท็อกซ์ได้

DIODE LASER

เลเซอร์ที่ใช้ตัวกลางในการผลิตแสงเป็นสารกึ่งตัวนำ มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 800-810, 940, 1,064  -1,350 นาโนเมตร ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นที่หลากหลาย ยิงลงลึกถึงระดับผิวหนังชั้นในส่วนลึก (Deep Dermis) มีเนื้อเยื่อเป้าหมายเป็นเมลานินในรูขุมขน (เม็ดสีบริเวณรากขน) เหมาะสำหรับคนที่มีผิวขาวไปจนถึงผิวสีกลางๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นผิวแทน นิยมใช้บนบริเวณแขน ขา ที่มี บริเวณกว้าง ๆ ไม่เหมาะกับการทำที่ผิวหน้าหรือในบริเวณเล็ก ๆ ที่ต้องการความละเอียด Diode Laser สามารถยืดหยุ่นในเรื่องของความยาวคลื่นได้ โดยมีแสงเลเซอร์ที่ผ่านผิวลงไปได้ลึก ซึ่งประโยชน์ของการเลเซอร์ขน มีดังนี้

ใครบ้างไม่ควรฉีดวิตามินผิว

การฉีดวิตามินผิวใสที่มีส่วนประกอบหลักเป็นวิตามินซี ควรหลีกเลี่ยงใน หลายคนกังวลว่าการฉีดวิตามินผิวบ่อย ๆ จะทำให้ผิวบาง ไวต่อแสง หรือไตทำงานหนัก ซึ่งโดยปกติแล้วการฉีดวิตามินผิว หรือดริปวิตามิน ไม่ได้ทำทุกวันต่อเนื่องครับ จะมีระยะเวลาในการฉีด เช่น ทุกหนึ่งสัปดาห์ เว้นระยะเวลาไปเรื่อย ๆ และการฉีดวิตามินผิวเป็นใช้สารสกัด วิตามิน ที่ช่วยเสริมความแข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่แล้ว ไม่เป็นอันตรายครับ

ดริปวิตามิน อันตรายมั้ย

ปัจจุบันการฉีดวิตามินบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส กำลังเป็นที่นิยมขึ้นอย่างมากทั้งคนที่อยากมีผิวขาวกระจ่างใส ดูสุขภาพดี และช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน หลายคนจึงเลือกวิธีที่เห็นผลเร็ว คือ ทำให้ผิวขาวใสด้วยการ “ฉีดวิตามินซี” ซึ่งเชื่อว่าให้ผลค่อนข้างชัดเจน สามารถเปลี่ยนความคล้ำเสียของผิวให้กลับมาขาวใสเรียบเนียนได้ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจทำหัตถการดังกล่าว เราควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้ทราบว่าการฉีดวิตามินผิวนั้นมีอันตรายอะไรหรือไม่ ? หมอมีคำตอบให้ในบทความนี้ครับ การฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม ? ในความเป็นจริงแล้วการฉีดวิตามินผิวใสไม่อันตรายครับ เนื่องจากตัวยาที่ฉีดเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และเป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากสำหรับคนที่อยากฉีดเติมวิตามินให้ผิวขาวใส ก็คือ อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการไปฉีดวิตามินผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจพบว่ามีสถานพยาบาลบางแห่งทำการฉีดสารกลูตาไธโอน (Glutathione) เข้าสู่ร่างกายให้คนไข้โดยตรง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่รวดเร็ว แต่ตัวยาดังกล่าวยังไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. ซึ่งการฉีดยาเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงคือมีอาการแพ้และเป็นผื่นได้ครับ การฉีดวิตามินผิวใสที่มีส่วนประกอบหลักเป็นวิตามินซีควรหลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์, คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคตับ/โรคไต, คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency) คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกินเพราะวิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุได้ ทางที่ดีควรเลือกคลินิกฉีดวิตามินผิวที่น่าเชื่อถือที่ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีมาตรฐานและใช้ของแท้ที่ปลอดภัยเท่านั้นครับ