Exosome คืออะไร?

Exosome คือสารอนุภาคนาโนขนาดเล็ก ที่ปล่อยออกมาจาก Stem Cell  โดยสาร Exosome  จะอยู่ในถุงเล็กๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30-150 นาโนเมตร ซึ่งในถุง Exosome นี้ จะมีสารชีวโมเลกุลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กรดอะมิโน , ไขมัน , Growth Factor , Cytokines , mRNA , miRNA , DNA เป็นต้น  ถุง Exosome ที่บรรจุสารต่างๆเหล่านี้ จะถูกส่งไปยังเซลล์ต่างๆ เพื่อทำการฟื้นฟูเซลล์เหล่านั้น ด้วยการกระตุ้นเซลล์ให้ทำงานอย่างกระฉับกระเฉงมากขึ้น กระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวกลับมายืดหยุ่น แข็งแรง กระจ่างใส สีผิวดูสว่าง เรียบเนียนมากขึ้นแต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถนำ Exosome ที่หลั่งออกมาจากเซลล์มาใช้โดยตรงได้ เพราะการทำงานของร่างกายที่เป็นกลไกธรรมชาติ ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกายจะหลั่ง Exosome ออกมาในปริมาณเท่าไหร่  และสารที่อยู่ใน Exosome นั้นๆจะเหมาะสมกับการฟื้นฟูเซลล์ผิวหรือไม่ จึงมีการริเริ่มมีแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรม ที่จะสกัดแยก Exosome  ออกมาจาก Stem Cell ในร่างกาย ด้วยการใช้เทคโนโลยี mRNA จนได้เป็น Exosome บริสุทธิ์ อนุภาคเล็กขนาด 30-150 nm ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ทำให้เข้าถึงเซลล์ต่างได้ดี และฟื้นบำรุงได้ลึกกว่า Exosome ที่สกัดออกมา จะเต็มไปด้วยสารสำคัญ ที่ช่วยซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์ผิว ไม่ว่าจะเป็น  Growth Factors ,  Amino Acid , Cytokines , ไขมัน ฯลฯ โดยแพทย์สามารถปรับใช้เพื่อฟื้นฟู และแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างเหมาะสม และ ครอบคลุมหลายปัญหา เช่น ลดริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม […]

ร้อยไหมจมูก อันตรายไหม

ร้อยไหมจมูก คือ การเสริมจมูกโดยการร้อยไหมเข้าไปเพื่อให้จมูกโด่งขึ้น เป็นหนึ่งในหัตถการปรับรูปหน้าที่ไม่ต้องผ่าตัด หลังทำเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น การร้อยไหมจมูกให้ผลลัพธ์คล้ายกับการเสริมซิลิโคน ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้สันจมูกมีเนื้อเพิ่มขึ้นมาได้ครับ การร้อยไหมจมูก ไม่อันตราย ถ้าร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง หลังร้อยไหมมีการทำความสะอาดและปิดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งรอยเข็มที่เกิดจากการร้อยไหมจะหายเร็วกว่าการผ่าตัดมาก ไม่ต้องพักฟื้น การร้อยไหมจมูก ไม่ควรทำในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือหมอกระเป๋า ทั้งในเรื่องเทคนิคร้อยไหมจมูก ประสบการณ์ ความสะอาด หากไม่พิถีพิถันในการเลือกคลินิกที่ปลอดภัย อาจเกิดปัญหา เช่น ช้ำหรือบวมมาก ติดเชื้อ ผิวบริเวณที่ร้อยไหมเป็นรอย ไม่เรียบเสมอกันได้ครับ ร้อยไหมจมูก ข้อดีไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ เหมาะกับคนที่ ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือคนที่กลัวการผ่าตัด การร้อยไหมจมูกจะขึ้นเป็นสันได้คมกว่าฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วแค่ต้องการความคม หรือในคนที่สันจมูกสวยอยู่แล้วแต่ต้องการยกแค่ปลายจมูกขึ้น (ใช้เทคนิควิธีร้อยไหมจมูกแบบพิเศษ)การร้อยไหมจมูกมีความปลอดภัยมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูก เนื่องจากไม่เสี่ยงต่อการเข้าเส้นเลือด และไหมละลาย pcl+plla สำหรับร้อยจมูกรุ่นล่าสุดก็อยู่ได้นาน 18 เดือน – 2 ปี และสามารถกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างเนื้อเยื่อจมูกของเราเองขึ้นมาได้ จึงเหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วแต่ไม่อยากผ่าตัดเสริมจมูก เพราะในกรณีที่มีฐานอยู่แล้ว ถ้าผ่าตัดเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน จะทำให้จมูกโด่งเกินไปดูไม่เป็นธรรมชาติได้ครับ ร้อยไหมจมูก ข้อเสียในคนที่ไม่มีฐานจมูกเส้นไหมไม่สามารถร้อยจมูกในปริมาณเยอะ […]

รูปทรงฟิลเลอร์ปากที่เหมาะกับสาวไทย

เนื่องจากเทรนด์ความนิยมเกี่ยวกับรูปทรงปากในขณะนี้ คือ ปากสายฝอ ปากหนาแบบตะวันตกปัญหาที่พบบ่อยคือคนไข้คนไทยมักนำภาพของดาราฝรั่งที่ริมฝีปากอวบอิ่มมาใช้เป็นตัวอย่าง ฟิลเลอร์ปาก ในกรณีนี้หมอจะพยายามอธิบายให้คนไข้เข้าใจว่า โครงหน้าของฝรั่งนั้นจะชัดกว่าคนไทย ทั้งคิ้วเด่น ตาโต จมูกโด่ง คางยาว ซึ่งกรณีนี้ควรมีริมฝีปากอวบอิ่มและหนามาก ๆ จะดูมีเสน่ห์มาก แต่ถ้าโครงหน้าแบบคนไทยส่วนมากจะไม่รับกับริมฝีปากแบบดาราฝรั่ง ควรใช้ตัวอย่างริมฝีปากที่เป็นคนเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และมีโครงหน้าในจุดอื่น ๆ ใกล้เคียงกับคนไข้ด้วย ผลที่ได้จึงจะออกมาดูเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งเมื่อได้ตัวอย่างรูปปากที่คนไข้ต้องการมาแล้ว หมอก็จะประเมิน และคำนวนสัดส่วน ฟิลเลอร์ปาก ให้รับกับจุดอื่น ๆ บนใบหน้าของคนไข้ ดังนี้

Diode Laser คืออะไร?

ไดโอด เลเซอร์ นวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขนที่ทันสมัย เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้คลื่นพลังงานที่มีความยาวคลื่นหลากหลาย ความยาวคลื่นช่วงที่นิยมใช้กัน คือ 800-1,350 nm สามารถยิงกำจัดขนแบบถอนรากถอนโคน เนื่องจากเลเซอร์สามารถลงลึกไปในผิวเพื่อกำจัดขนได้ถึงระดับผิวหนังชั้นในส่วนลึก ซึ่งสามารถเข้าไปจับเม็ดสีที่รากขนและช่วยระงับการทำงานของเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงรูขุมขน และยังสามารถปล่อยพลังงานความร้อนออกมาเพื่อทำลายรากขนนั้นๆ ทำให้เส้นขนหลุดร่วงออกมา โดยไม่ทำให้เจ็บ หรือทำลายผิวหนังบริเวณที่เรากำจัดขน นอกจากจะสามารถกำจัดขนอย่างถาวรแล้ว การทำไดโอด เลเซอร์ ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังบริเวณที่เลเซอร์ ทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนมากขึ้น สำหรับการกำจัดขนด้วย diode laser มักนิยมใช้กำจัดขนบริเวณที่กว้าง หรือบริเวณที่ไม่ได้ต้องการความละเอียดมาก เช่น ขนแขก ขนขา ขนรักแร้ ขนบิกินี่ ขนหน้าอก หรือขนหนวดเครา รวมไปถึงยังเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาขนคุด ปัญหาตุ่มหนังไก่ หรือปัญหาผิวดำคล้ำบริเวณที่มีขนขึ้นได้ สำหรับการทำ diode laser เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการกำจัดขน เนื่องจากสามารถกำจัดขนได้อย่างถาวรแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้อีกมากมาย ทั้ง

ตุ่มสิวใต้ตา รักษาได้อย่างไรบ้าง

1. การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser treatment) วิธีกำจัดสิวหินด้วยเลเซอร์ จะนิยมใช้เลเซอร์ชนิดที่ทำให้ผิวลอก (Ablative Laser Resurfacing) และเลเซอร์ชนิดที่ทำให้ผิวลอกเฉพาะส่วน (Fractionated Laser) อย่าง CO2 Laser และ Erbium: YAG laser ผู้เข้ารับการรักษาที่มีผิวสีเข้ม จะเสี่ยงเป็นแผลเป็นได้มากกว่าผู้ที่มีผิวสีอ่อน ก่อนการรักษา แพทย์จะให้ลองรักษาในจุดเล็กๆก่อนเพื่อดูว่าเป็นแผลเป็นหรือไม่ หรือเป็นในปริมาณที่รับได้ไหม ถ้าอยู่ในระดับที่พึงพอใจจะทำต่อ จึงค่อยรักษาในบริเวณที่เหลือต่อไป  ซึ่งเลเซอร์ที่นิยมใช้รักษาสิวหินสำหรับผู้เข้ารับการรักษาที่มีผิวสีเข้ม จะนิยมใช้ Erbium: YAG laser เนื่องจากมีความเสี่ยงการเกิดแผลเป็นได้น้อยกว่าเมื่อใช้รักษากับผู้ที่ผิวสีเข้ม การรักษาครั้งหนึ่งจะใช้เวลาฟื้นตัวเพื่อเห็นผลลัพธ์การรักษาประมาณ 5 – 14 วัน สำหรับผู้ที่ผิวเข้มหลังการรักษาอาจทำให้เกิดภาวะการสร้างเม็ดสีมากหรือน้อยกว่าปกติ (hyperpigmentation or hypopigmentation) ชั่วคราว ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าการสร้างเม็ดสีจะกลับมาเป็นปกติ ทั้งนี้ วิธีรักษาสิวหินใต้ตาและพื้นที่อื่นๆ ด้วยการทำเลเซอร์ เป็นวิธีการรักษาที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากเห็นผลชัดเจน โอกาสเกิดแผลเป็นและการติดเชื้อหลังการรักษาน้อยกว่าวิธีอื่นๆ  2. การรักษาด้วยการจี้ด้วยไฟฟ้า (Electrosurgery) เมื่อใช้ไฟฟ้าจี้สิวหิน ความร้อนจากไฟฟ้าจะไปทำลายเนื้อเยื่อที่ผิดปกติอย่างสิวหิน และทำลายเส้นเลือดในก้อนเนื้องอกให้สิวหินฝ่อไป ทำแค่ครั้งเดียวก็สามารถหายได้ มีความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นเช่นกัน แต่โอกาสการเกิดค่อนข้างน้อยเหมือนกับการทำเลเซอร์ 3. การรักษาด้วยการผ่าตัด (Surgical […]

เลือกแนวไรผมแบบไหนดี? (Which types of hair styles do we have?)

การมีแนวไรผมที่สวยงามเป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน ลูกค้า cotton wool clinic ที่เข้ามารับการปลูกผม มักจะมีคำถามในช่วงที่คุณหมอออกแบบแนวไรผมว่าจะเลือกทรงใดดี ในผู้ชายความสูงของหน้าผากจะวัดจากระหว่างคิ้วถึงแนวผมจะประมาณ 8เซนติเมตร แนวผมที่เป็นธรรมชาติมักจะไม่เป็นแนวเส้นตรงโดยตลอด แต่มีลักษณะรอยหยักเล็กๆ นอกจากนี้ยังต้องร่วมกับมีแนวผมด้านข้างที่เป็นมุมแหลมหรือมุมฉาก ในแนวไรของผมผู้หญิงมักมีความแตกต่างจากผู้ชายค่อนข้างมาก เพราะหน้าผากของผู้หญิงต้องโค้งมน ดูอ่อนละมุน จุดสูงสุดของแนวไรผมหน้าผาก การปลูกผมปรับกรอบหน้าผู้ชาย มีทรงไหนบ้าง?การปรับทรงหน้าผากให้เป็นดูเป็นผู้ชายจะต้องทำให้หน้ากว้าง สูง และเป็นสี่เหลี่ยมลงมาถึงโหนกคิ้วจนไปถึงหู  โดยธรรมชาติแล้วผู้ชายจะมีศีรษะไรผมขึ้นเถิกบริเวณด้านข้างลึกเข้าไปทั้งสองข้าง ทำให้แนวผมด้านข้างจะเป็นมุมแหลมหรือรูปตัววี เพราะฉะนั้น การออกแบบแนวผมด้านข้าง ก็จะทำให้เป็นแนวมุมแหลมหรืออาจจะเป็นมุมฉากได้ เพื่อให้ภาพโดยรวมของแนวผมบ่งบอกถึงความเป็นเพศชายมากที่สุด ซึ่งแต่ละท่านจะใช้จำนวนกราฟต์ผมไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ เหมาะกับผู้ชายสายหวาน ที่จะทำให้หน้าคุณดูหวานมากขึ้นกว่าเดิมครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนคิ้วหนา การทำผมทรงรูปหัวใจ ก็จะยิ่งทำให้คุณกลายเป็นคนที่หน้าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง จากการรีวิวของผู้ที่ปลูกไปแล้ว การทำผมทรงนี้มีผลดึงดูดเพศตรงข้ามได้มากที่สุดครับ Which types of hair styles do we have? Having beauty hair is something that everyone desires. Cottonwool Clinic customers who […]

ผู้สูงอายุปลูกผม ผลลัพธ์จะเหมือนคนอายุน้อยไหม? (Elderly people do the hair transplant will the results be the same as younger people?)

ผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไปอาจจะมีความคาดหวังผลลัพธ์ในการปลูกผม ให้ย้อนวัยกลับไปเหมือนตอนช่วงอายุ 20 ปี แต่ความเป็นไปได้นั้น ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของอาการผมร่วงและช่วงอายุ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการปลูกผมและต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 ด้านดังนี้ 1. ระดับความรุนแรงของศีรษะล้านและปริมาณเส้นผมที่เหลืออยู่ ปริมาณเส้นผมของคนไข้ ถือเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด อายุที่มากขึ้น ผมที่เหลืออยู่ตามธรรมชาติจะมีปริมาณน้อยกว่าช่วงวัยหนุ่ม และผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาผมบางศีรษะล้านที่รุนแรงมากกว่า  ทำให้การแก้ปัญหาด้วยการปลูกผม จะต้องคำนึงถึงปริมาณผมที่เหลือ หากปริมาณผมมีน้อย จะต้องมีการออกแบบ hair line และใช้ความหนาแน่นที่ล้อไปกับปริมาณผมที่เหลืออยู่นั่นเอง  2. การออกแบบ Hair line การออกแบบทรงผมในผู้สูงอายุ แพทย์จะมีการออกแบบทรงผม เน้นความธรรมชาติให้เข้ากับช่วงอายุนั้นๆ เช่น การกำหนดทรงผมที่สูงขึ้นเล็กน้อย และใช้ความหนาแน่นที่พอดี ให้เข้ากับความหนาแน่นของผมเดิมของคนไข้ เพราะอายุที่มากขึ้น ความหนาแน่นของเส้นผมก็จะเริ่มน้อยลง  แต่ในบางรายที่ต้องการทรงผมที่ดูย้อนวัยมากๆ ก็สามารถทำได้หากปริมาณผมด้านหลังเพียงพอ  3. โรคประจำตัว ผู้สูงอายุมักมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งต้องรับประทานยารักษาต่อเนื่อง การปลูกผมถือเป็นการผ่าตัดเล็กที่ค่อนข้างปลอดภัย หากมีโรคประจำตัวแต่รับประทานยาต่อเนื่อง ควบคุมตัวโรคได้ดี ก็ไม่ถือเป็นข้อห้ามในการปลูกผม แต่อย่างไรก็ตามหากมีโรคประจำตัวแนะนำให้แจ้งแพทย์และนำยาที่รับประทานอยู่มาให้แพทย์ดูด้วย เพื่อวางแผนการปลูกผมให้มีความปลอดภัยสูงสุดนั่นเอง   เห็นไหมคะ […]

NAD+ Therapy ควรทำบ่อยแค่ไหน

แนะนำให้เข้ารับการทำ NAD+ Therapy อย่างน้อยเดือนละ1 ครั้งหรือตามคำแนะนำของแพทย์ โดยครั้ง 2-3 เป็นต้นไปสามารถเพิ่มเติมตัวยา วิตามินอื่นๆ เข้าไปร่วมด้วยได้ขึ้นอยู่อายุและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้ ซึ่งแนวทางในการทำ NAD+ Therapy ที่แพทย์หลายๆ คนแนะนำว่าจะช่วยให้เห็นผลไวจะมีดังนี้ ผลข้างเคียงหลังทำ NAD+ Therapyในระหว่างการให้ยาอาจเกิดอาการมึนศีรษะ แน่นหน้าอก หรือมวนท้องซึ่งกรณีนี้มักเกิดจากคนไข้มีอาการวิตกกังวลก่อนทำ ซึ่งคนไข้สามารถแจ้งแพทย์ผู้ดูแลเพื่อปรับการดริปยาให้ช้าขึ้นได้ และอาการดังกล่าวจะหายไปเองเมื่อให้ยาเสร็จ และในบางรายอาจเกิดรอยเข็มขึ้นได้หลังจากทำ ซึ่งสามารถใช้การประคบเย็นเช้าช่วยเพื่อให้รอยจางไวขึ้น

เกิดอะไรขึ้นเมื่อ NAD+ ในร่างกายลดลง

มีการศึกษาที่ค้นพบว่า การลดลงของระดับ NAD+ ทำให้เกิดความชรา โดยทั่งไประดับ NAD+ จะลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น  ในวัยกลางคนจะลดลงเหลือน้อยกว่า 50 % และลดลงเหลือเพียง 1 – 10 % เมื่อมีอายุ 80 ปี การลดลงของระดับ NAD+ ก่อให้เกิดการเสื่อมถอยของระบบประสาทและความจำ ระดับการเปลี่ยนแปลงพลังงานลดลง เกิดภาวะของโรคหัวใจ โรคอ้วน ภาวะมีบุตรยาก และปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามอายุขัย ความเสื่อมของร่างกายเมื่อระดับ NAD+ ลดลง การเสริมสุขภาพร่างกายด้วย NAD+ เหมาะกับใคร ? และบังมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการเสริมระดับ NAD+ ช่วยชะลอหรือย้อนวัยให้กับสุขภาพของร่ายกาย ในแง่มุมต่างๆ และยังชะลอการลุกลามของโรคที่มักมีแนวโน้มพบได้บ่อยตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โปรแกรม NAD+ ด้วยสูตรเฉพาะบุคคล ช่วยเเก้ไขข้อบกพร่องของระบบการเผาผลาญของ กระบวนการแก่ของเซลล์ รวมถึงโรคทางระบบประสาท, โรคหลอดเลือดหัวใจ, เบาหวาน, โรคอ้วน และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอายุ โดยเเพทย์ จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินวิเคราะห์ […]